top of page

CEFR คืออะไร ??

10 กรกฎาคม 2024


CEFR คืออะไร ??


CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) คือมาตรฐานสากลที่ใช้อธิบายระดับความเชี่ยวชาญทางภาษา โดยแบ่งออกเป็น 6 ระดับตั้งแต่ A1 ถึง C2 ซึ่งแต่ละระดับจะแสดงถึงความสามารถในการใช้และเข้าใจภาษาในสถานการณ์ต่าง ๆ


จุดกำเนิดของ CEFR

CEFR ได้รับการตั้งขึ้นโดยสภายุโรปในปี 1990 เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างผู้สอนภาษาทุกประเทศในยุโรป โดยมุ่งหมายให้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการประเมินความเชี่ยวชาญทางภาษาของผู้เรียนและผู้สมัครงาน ซึ่งสามารถใช้ในการสอนและการประเมินได้


การวัดระดับทักษะด้านภาษาอังกฤษด้วย CEFR

หลักการวัดระดับภาษาของ CEFR มี 6 ระดับ


1. A1 (Beginner)

Listening: สามารถเข้าใจคำและวลีพื้นฐานที่ใช้บ่อยเกี่ยวกับตัวเองและครอบครัว

Reading: สามารถอ่านและเข้าใจข้อความสั้นๆ และง่ายๆ

Speaking: สามารถใช้คำและวลีพื้นฐานในการสื่อสารเรื่องง่ายๆ

Writing: สามารถเขียนข้อความสั้นๆ เกี่ยวกับตัวเอง


2. A2 (Elementary)

Listening: สามารถเข้าใจประโยคและวลีที่ใช้บ่อยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวและครอบครัว

Reading: สามารถอ่านข้อความสั้นๆ และง่ายๆ เช่น ป้าย ประกาศ และเมนู

Speaking: สามารถสื่อสารในสถานการณ์ง่ายๆ ที่ต้องใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ตรงไปตรงมา

Writing: สามารถเขียนข้อความสั้นๆ และง่ายๆ เช่น จดหมายหรือบันทึกย่อ


3. B1 (Intermediate)

Listening: สามารถเข้าใจประเด็นหลักในบทสนทนาที่เกี่ยวกับหัวข้อทั่วไป

Reading: สามารถอ่านและเข้าใจข้อความที่เขียนเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย

Speaking: สามารถสื่อสารในสถานการณ์ที่ต้องใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ตรงไปตรงมาและเข้าใจบทสนทนาธรรมดา

Writing: สามารถเขียนข้อความที่เชื่อมโยงกันเกี่ยวกับหัวข้อที่คุ้นเคย


4. B2 (Upper Intermediate)

Listening: สามารถเข้าใจบทสนทนาที่มีรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับหัวข้อที่ซับซ้อนกว่าเดิม

Reading: สามารถอ่านและเข้าใจบทความและรายงานเกี่ยวกับหัวข้อที่หลากหลาย

Speaking: สามารถสื่อสารได้คล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติในหลากหลายสถานการณ์

Writing: สามารถเขียนข้อความที่มีโครงสร้างดีและรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับหัวข้อที่หลากหลาย


5. C1 (Advanced)

Listening: สามารถเข้าใจบทสนทนาที่ยาวและซับซ้อน รวมถึงการแสดงความเห็นที่หลากหลาย

Reading: สามารถอ่านและเข้าใจบทความที่ซับซ้อนและยาวในหัวข้อต่างๆ

Speaking: สามารถสื่อสารได้คล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติในหัวข้อที่หลากหลาย

Writing: สามารถเขียนข้อความที่มีความซับซ้อนและมีรายละเอียดมากขึ้นในหัวข้อที่หลากหลาย


6. C2 (Proficient)

Listening: สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ได้ยินในระดับที่สูงและซับซ้อน

Reading: สามารถอ่านและเข้าใจบทความที่ยาวและซับซ้อนในทุกหัวข้อ

Speaking: สามารถสื่อสารได้คล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติในทุกสถานการณ์

Writing: สามารถเขียนข้อความที่ซับซ้อนและมีรายละเอียดมากขึ้นในทุกหัวข้อ


ทำไมต้องสอบ CEFR?


การสอบ CEFR มีความสำคัญหลายประการ:

  1. มาตรฐานการศึกษาและการทำงาน: หลายบริษัทและสถาบันการศึกษามักกำหนดเกณฑ์ความเชี่ยวชาญทางภาษาตามระดับของ CEFR เพื่อประเมินผู้สมัครหรือพนักงาน

  2. การพัฒนาทักษะภาษา: CEFR ช่วยให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถประเมินและปรับปรุงทักษะภาษาได้อย่างมีระบบ

  3. การสื่อสารระหว่างประเทศ: การมีเกณฑ์มาตรฐานที่ชัดเจนช่วยให้การสื่อสารระหว่างบุคคลจากประเทศต่าง ๆ ง่ายขึ้น

  4. การยอมรับสากล: CEFR เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในยุโรปและทั่วโลก

การมี CEFR ช่วยให้คุณสามารถแสดงความสามารถทางภาษาในประวัติย่อได้อย่างชัดเจน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล


The Language Thailand มีหลักสูตรโปรแกรมที่ช่วยให้คุณทราบถึงระดับภาษาอังกฤษของคุณได้ง่าย เรามีคอร์สเรียนที่ออกแบบมาเพื่อประเมินและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณตามมาตรฐาน CEFR



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

Phone: 02-114-3250




 


CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) is an international standard used to describe language proficiency levels. It is divided into six levels, from A1 to C2, each representing the ability to use and understand the language in different contexts.


Origins of CEFR


CEFR was established by the Council of Europe in 1990 to support collaboration among language teachers across Europe. It aims to be a benchmark for assessing the language proficiency of learners and job applicants, applicable in both teaching and evaluation.



CEFR Language Proficiency Levels

CEFR is divided into six levels:


1. A1 (Beginner)

Listening: Can understand basic words and phrases frequently used regarding oneself and family.

Reading: Can read and understand short and simple texts.

Speaking: Can use basic words and phrases to communicate simple matters.

Writing: Can write short messages about oneself.


2. A2 (Elementary)

Listening: Can understand sentences and frequently used phrases related to personal and family information.

Reading: Can read short and simple texts such as signs, announcements, and menus.

Speaking: Can communicate in simple situations requiring straightforward information exchange.

Writing: Can write short and simple messages such as letters or notes.


3. B1 (Intermediate)

Listening: Can understand the main points in conversations about general topics.

Reading: Can read and understand texts written about familiar topics.

Speaking: Can communicate in situations requiring straightforward information exchange and understand common conversations.

Writing: Can write connected texts about familiar topics.


4. B2 (Upper Intermediate)

Listening: Can understand more detailed conversations on more complex topics.

Reading: Can read and understand articles and reports on various topics.

Speaking: Can communicate fluently and naturally in a wide range of situations.

Writing: Can write well-structured and detailed texts on various topics.


5. C1 (Advanced)

Listening: Can understand long and complex conversations, including diverse opinions.

Reading: Can read and understand complex and lengthy articles on various subjects.

Speaking: Can communicate fluently and naturally on a wide range of topics.

Writing: Can write complex and detailed texts on various subjects.


6. C2 (Proficient)

Listening: Can understand everything heard at a high and complex level.

Reading: Can read and understand lengthy and complex articles on any subject.

Speaking: Can communicate fluently and naturally in all situations.

Writing: Can write complex and detailed texts on any subject.


Why Take the CEFR Test?


The CEFR test is important for several reasons:


Educational and professional standards: Many companies and educational institutions set language proficiency criteria based on CEFR levels to assess applicants or employees.


Language skill development: CEFR helps learners and teachers systematically evaluate and improve language skills.


International communication: Having a clear standard facilitates communication between individuals from different countries.


Global recognition: CEFR is widely recognized in Europe and around the world.


Having CEFR certification allows you to clearly demonstrate your language abilities on your resume, gaining international acceptance.


The Language Thailand offers programs to help you easily determine your English proficiency level. We have courses designed to assess and develop your English skills according to CEFR standards.


If you are interested in taking the proficiency test with us or seeking English language consultation,



For organizations, contact :

Phone: 02-114-3250



Comments


bottom of page